We ship worldwide
December 10, 2018 1 min read
วันนี้เมื่อ 1ปีที่แล้ว (10ธันวาคม 2017)ก่อนที่จะก่อเกิดแบรนด์ Chaksarnขึ้นเป็นวันที่ผมเริ่มลงมือทำเป็นวันที่ทุกอย่างได้เริ่มต้นขึ้นผมเกิดความคิดที่จะทำแบรนด์กระเป๋าจากวัสดุไทยๆกระเป๋าที่มีความเป็นไทยและความเป็นสากลผสมอยู่และกระเป๋าที่ใครๆเห็นแล้วต้องว้าวณตอนนั้นยังไม่รู้ว่าจะใช้วัสดุอะไรแต่อยากสร้างความแปลกใหม่และอยากให้โลกจำจึงได้เริ่มเสาะหาสิ่งใกล้ตัวนั่งลิสรายการของที่มีอยู่ในท้องถิ่นทั้งหมดอยู่นานผ้าไหมผ้าฝ้ายเอยหวายไม้ไผ่ผักตบชะวาเอยสุดท้ายก็มาลงตัวที่เสื่อกกหรือเสื่อไหลเพราะยังไม่ค่อยมีเห็นออกมาเป็นชิ้นงานแปรรูปมากนักบวกกับชื่นชอบและหลงไหลในลายขิตอันประณีตบนเสื่อกกเป็นทุนเดิมอยู่แล้วและจากการนั่งเสาะหาวัสดุท้องถิ่นนี้เองทำให้เห็นภาพรวมที่ว่างานที่ผมสนใจและกำลังเสาะหามันอยู่ก็จะวนเวียนอยู่กับงานจักสานหรืองานหัตถกรรมและนี่จึงเป็นที่มาของชื่อแบรนด์ Chaksarn
ผมเริ่มต้นจากศูนย์เพราะทอเสื่อไม่เป็นถึงแม้ว่าชีวิตตั้งแต่เด็กจนโตจะคลุกคลีอยู่กับเสื่อนั่งทานข้าวบนเสื่อทุกวันไปวัดก็ยังเจอเสื่อผืนใหญ่ยาวงานบุญงาพิธีกรรมต่างๆเสื่อก็จะเป็นเสมือนเฟอร์นิเจอร์หลักของชุมชนอยู่เสมอแต่ครั้นเป็นเด็กจึงไม่ได้สนใจว่ามันมีที่มาที่ไปอย่างไรมาตอนนี้ที่เริ่มอยากทำผลิตภัณฑ์จากเสื่อจึงขอเริ่มต้นจากศูนย์เลยดีกว่าผมเริ่มก้าวแรกโดยการไปบอกแม่ว่าอยากทอเสื่อเป็นแม่ถึงกับงงอยู่ๆลูกชายอยากทอเสื่อก็เลยได้เล่าความฝันของการสร้างแบรนด์ที่จะเขย่าวงการแฟชั่นวัสดุไทยให้แม่ฟังแม่เลยอาสาเป็นผู้ช่วยหลัก
แม่ผมจะทอผ้าไหมมัดหมี่เป็นงานอดิเรกหลังจากว่างเว้นจากฤดูทำนาเหมือนกับชาวบ้านคนอื่นๆแต่จะไม่ถนัดเรื่องทอเสื่อกกแม่จึงพาไปหาคุณอาที่แกทอเสื่อเป็นประจำอยู่แล้วคุณอาจึงอาสาจะเป็นครูให้บวกกับให้ยืมกี่ฟืมและอุปกรณ์ที่จำเป็นในการเริ่มต้นและแล้วการผจญภัยก็ได้เริ่มต้นขึ้นหลังจากจัดหาวัสดุและอุปกรณ์ครบ
ผมกับแม่ลองย้อมสีต้นกกเองลองผิดลองถูกมือเปลี่ยนสีจนจะถอดใจมันทำยากกว่าที่ผมคิดไว้เยอะมากการจะควบคุมสีให้ได้สีที่ต้องการคือหินสุดๆณตอนนั้นรู้เลยว่าการที่ย้อมสีเส้นกกคนละรอบแล้วต้องการให้เป็นสีเดียวกัน 100%เป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยากมากแต่เนื่องด้วยเราไม่ใช่โรงงานและขั้นตอนทุกอย่างทำด้วยมือจึงต้องยอมรับในจุดนี้หลังจากได้เส้นกกที่ผ่านการย้อมเสร็จแล้วก็มาถึงขั้นตอนการทอแต่ก่อนทอสิ่งที่ยากกว่าคือการร้อยฟืมตั้งกี่ต้องนั่งร้อยเส้นเชือกที่เป็นแนวยืนเส้นต่อเส้นจำได้ว่าร้อยเชือกบนฟืมทอเสื่อจนตาลายทั้งแม่ทั้งน้องสาวก็มาช่วยกันร้อยสลับไปมากว่าจะร้อยเชือกเสร็จก็ปาไปครึ่งวัน
กี่พร้อมฟืมพร้อมก็เริ่มต้นเลยหัดทอหัดแกะลายอยู่หลายวันจนได้รู้ว่ากว่าจะได้เป็นเสื่อแต่ละผืนไม่ได้ง่ายเลยนี่ขนาดผมเริ่มต้นแค่จากการที่ได้ต้นกกที่เป็นเส้นแล้วพร้อมย้อมแต่ยังไม่ย้อนไปถึงการเก็บเกี่ยวต้นกกการเตรียมเส้นกกดิบๆและขั้นตอนต่างๆก่อนจะมาเป็นเส้นกกแห้งก่อนย้อมสีถึงจุดนี่ผมต้องขอชื่นชนชาวบ้านคุณป้าคุณยายทั้งหลายที่ได้ทอเสื่อสวยๆให้เราได้ใช้ปูนั่งกันและผมได้บอกกับตัวเองว่าผมจะต้องทำให้สิ่งนี้มันมีค่ามีราคาในสายตาคนอื่นอย่างที่มันมีค่าในสายตาผมให้ได้
หลังจากที่ได้เสื่อที่ตัวเองทอมาแล้วผมก็เอาเสื่อเหล่านั้นแหละมาออกแบบกระเป๋าตอนแรกยังไม่คิดเรื่องการนำมาผสมกับหนังแต่พอลองขึ้นแบบโดยใช้เฉพาะเสื่อมันก็ทำรูปทรงแทบไม่ได้เพราะเสื่อแตกหักบ้างรุ่ยบ้างโค้งงอตามใจไม่ได้บ้างจึงเกิดความคิดที่จะเอาหนังมาเป็นส่วนประกอบแต่ปัญหาคือผมไม่มีความรู้เรื่องหนังเลยต้องไปหาที่ไหนหนังมีกี่ประเภทเย็บอย่างไรคือไม่รู้อะไรเลยจริงๆแต่ก็ไม่ได้ยอมแพ้ผมเริ่มจากการหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ทบวกกับดู YouTubeเกี่ยวกับการทำกระเป๋าหนังแต่สุดท้ายไม่ได้ช่วยอะไรผมจึงหาคอสสอนทำกระเป๋าหนังเดินทางจากบ้านนอกเข้ากรุงเพื่อมาเรียนทำกระเป๋าหนังหวังเพียงว่าความรู้ที่ได้จะนำไปต่อยอดและผสมผสานกับเสื่อที่บ้านได้และจากจุดนี้นี่เองที่ไอเดียดีไซน์กระเป๋าจักสานหน้าตาที่ทุกท่านเห็นในปัจจุบันได้ก่อเกิดขึ้น
จากคลาสเรียนผมก็ได้ไอเดียใหม่ๆเยอะแยะไปหมดได้เรียนรู้เทคนิคและที่มาที่ไปเรียนรู้การเย็บกระเป๋าด้วยมือเรียนวิธีทำแพ็ทเทิร์ทกระเป๋ารู้ขั้นตอนต่างๆว่ากว่าจะมาเป็นกระเป๋าแต่ละใบต้องเริ่มหนึ่งสองสามอย่างไรหลังจากเรียนเสร็จผมก็เริ่มต้นออกแบบกระเป๋าเสื่อกกผสมหนังอย่างที่ตั้งใจไว้แต่ก็เจอปัญหาใหญ่คือความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงของ Textureหรือเนื้อสัมผัสของวัสดุทั้งสองอย่างที่ผมนำมารวมกันซึ่งเป็นปัญหาในการเย็บอย่างมากการตัดเย็บกระเป๋าหนังล้วนง่ายกว่าทำกระเป๋าหนังผสมเสื่อเป็นสิบๆเท่าเลยจักรเย็บธรรมดาไม่สามารถเย็บเสื่อได้หนังกับเสื่อความหนาและความอ่อนนิ่มไม่เท่ากันการจะทำให้ทั้งสองอย่างตัดเย็บเข้าด้วยกันแล้วให้ดูลงตัวและดูแพงเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก
ก่อนที่จะก่อเกิดเป็นกระเป๋าใบจริงและเป็นแบรนด์ขึ้นมาได้ผมก็ลองผิดลองถูกกับแบบกระเป๋าอยู่หลายสิบรอบวัสดุดามทรงต่างๆถูกทดลองใช้แทบทุกชนิดแก้แล้วแก้อีกเพราะมันไม่สามารถตัดเย็บได้ตามที่ใจต้องการแบบของกระเป๋าต้องเอื้อต่อการตัดเย็บด้วยนี่จึงทำให้ไอเดียของการดีไซน์ถูกจำกัดลงมากแต่สุดท้ายก็ได้ก่อเกิดมาเป็นกระเป๋าจักสานรุ่น Originalอย่างที่ทุกคนได้ใช้และสัมผัสกัน
ผมเปิดตัวแบรนด์ครั้งแรกเมื่อต้นเดือนเมษายน 2018แบบไม่ได้หวังอะไรมากในตอนแรกหวังแค่ว่ากระเป๋าที่ทำมาจะขายออกสักใบให้เป็นกำลังใจในการทำงานต่อแต่เพียงแค่หลังจากการเปิดได้สัปดาห์เดียวก็ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจนงงและอึ้งกระเป๋าที่ทำมาไม่กี่ใบในช่วงแรกขายหมดและมีลูกค้าสั่งจองเข้ามาหลายท่านช่วงแรกผลิตไม่ทันต้องเปิด Pre-orderผมดีใจที่มีคนเห็นคุณค่าของงานฝีมือไทยอย่างที่ผมเห็นปลื้มใจที่สิ่งที่ผมตั้งใจทำมาได้รับการสนับสนุนหลังจากที่เริ่มมีการขายผมก็เพิ่มการผลิตและจากจุดนี้นี่เองที่ผมได้เริ่มป้อนงานให้คุณป้าคุณยายในชุมชนการตอบรับจากชุมชนก็ดีมากๆเช่นกันชาวบ้านช่วยเหลือเต็มที่เพื่อให้งานทอออกมาละเอียดประณีตอย่างที่ผมต้องการและทุกคนกระตือรือล้นที่จะช่วยเหลือป้าๆดีใจที่มีงานมีรายได้เข้าไปหาผมเริ่มมีกำลังใจและสุขใจมากๆกับผลที่มันเกิดขึ้นสุขใจที่มีคนชอบงานที่ผมได้สร้างสรรค์ออกมาสุขใจที่ผมได้เห็นรอยยิ้มจากชุมชนสุขใจที่ได้ทำในสิ่งที่ฝันให้เป็นรูปเป็นร่างได้
เส้นทางนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นปลายทางยังรอผมอยู่ไกลมากระหว่างทางมีอุปสรรค์และปัญหาเยอะแยะมากมายแต่ก็จะทำให้ดีที่สุดยินดีรับฟังความคิดเห็นและคำแนะนำจากทุกๆท่านจะพัฒนาแบรนด์ Chaksarnต่อไปอยากนำไทยสู่สากลและอยากยกระดับความเป็นอยู่ของคนในชุมชนไปพร้อมๆกันขอฝาก Chaksarnไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกท่านด้วยนะครับ
ตั้มจิรวัฒน์มหาสาร
10 ธันวาคม 2018